วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Ex1


1.จงอธิบายความหมายของคำต่อไปนี้ตามความหมายเข้าใจของนักศึกษาเอง

   เทคโนโลยี (Technology) หมายถึง เป็นการนําความรู้ ทักษะ และทรัพยากรมาสร้างสิ่งของเครื่องใช้หรือวิธีการโดยผ่านกระบวนการ เพื่อแก้ปัญหา สนองความต้องการ หรือเพิ่มความสามารถในการทํางานของมนุษย์

    เทคโนโลยีสารสนเทศ (information technology) เป็นคำศัพท์ที่มาจากคำอย่างน้อย 2 คำ คือ คำว่าเทคโนโลยี(technology) กับคำว่าสารสนเทศ  (information) ดังนั้น ความหมายของคำว่าเทคโนโลยีสารสนเทศตามรากศัพท์จึงหมายถึง การจัดระบบสารสนเทศที่ต้องใช้เครื่องมือหรือวิธีการที่พัฒนาแล้วมาดำเนินการ (มนูญ แก้วราตรี, 2542, หน้า 11) นอกจากนี้ยังมีผู้ให้ความหมายของคำว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ITไว้ ดังนี้
          ทิพวรรณ หล่อสุวรรณรัตน์ (2548, หน้า 16) ได้ให้ความหมายไว้ว่า เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบันทึก จัดเก็บ ประมวลผลค้นคืน ส่งและรับเชื่อมโยงข้อมูลและสารสนเทศ ซึ่งรวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ

    เทคโนโลยีการสื่อสาร (Communication Technology)  คือเทคโนโลยีดิจิตัล (Digital Technology)ประเภทหนึ่งซึ่งได้พัฒนาตัวเพื่อเอื้อต่อการจัดการ  “การสื่อสาร(Communication)” หรือ “การขนส่งข่าวสาร(Transfer of Information)”  เทคโนโลยีการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นทางด้านภาพ (Image) เสียง (Voice)  หรือทางด้านข้อมูล (Data) ได้รับการพัฒนาจนมนุษย์ สามารถเชื่อมโยงติดต่อกันได้อย่างสะดวกรวดเร็ว  และเป็นเครือข่ายที่ติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก  เป็นยุคของสารสนเทศ (Information Age) และเป็นสังคมสาร- สนเทศ(Information Society) ที่นับวันจะมีอัตราการเติบโตขึ้นทุกที่ทั้งในด้านขนาดและปริมาณข่าวสารที่ไหลเวียนBullอยู่ในสังคม (ธวัชชัย พานิชยกรณ์, 2539)

2.Cyber  Bully หมายถึงอะไรหรือปรากฎณ์การณ์ใด จงอธิบายพร้อมทั้งยกตัวอย่าง

    คำว่า Cyber Bullying เป็นคำที่เกิดใหม่เพื่ออธิบายการกลั่นแกล้งในโลกไซเบอร์ เช่น อีเมล์ การส่งข้อความ เว็บ ชุมชนออนไลน์ และ โทรศัพท์  รูปแบบการแกล้งประเภทนี้มีตั้งแต่ นินทา ด่าทอ ส่งข้อมูลลับของคนอื่นโดยมีเจตนาให้บุคคลนั้นเสียชื่อเสียง และ เสื่อมเสีย เช่น การกล่าวหาในเรื่อง ๆ หนึ่ง ผ่านทางช่องทางต่าง ๆ โดยที่เหยื่อนั้นไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าใครเป็นผู้กระทำ ถึงแม้ว่าการใช้ Social Network ในสังคมไทยในปัจจุบันนั้นถือว่า มีการป้องกันในการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี แต่ก็คงไม่เพียงพอที่ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ Cyber Bullying ขึ้นมาได้ ผู้ใช้ต้องเข้าใจและเท่าทันเหตุการณ์ปัจจุบัน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ


ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
   - รูปแบบเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน
   - พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
   - การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียนการสอน

รูปแบบเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน
เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถจำแนกตามลักษณะการใช้งานได้เป็น 6 รูปแบบ ดังต่อไปนี้คือ
   1. เทคโนโลยีที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เช่น ดาวเทียมถ่ายภาพทางอากาศ, กล้องดิจิทัล, กล้องถ่ายวีดิทัศน์, เครื่องเอกซเรย์
   2. เทคโนโลยีที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล  เป็นสื่่อบันทึกข้อมูลต่าง ๆ เช่น เทปแม่เหล็ก, จานแม่เหล็ก, จานแสงหรือจานเลเซอร์, บัตรเอทีเอ็ม
   3. เทคโนโลยีที่ีใช้ในการประมวลผลข้อมูล ได้แก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์ และ ซอฟต์แวร์
   4. เทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผลข้อมูล เช่น เครื่องพิมพ์, จอภาพ, พลอตเตอร์ ฯลฯ
   5.เทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดทำสำเนาเอกสาร เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร, เครื่องถ่ายไมโครฟิล์ม
   6.เทคโนโลยีสำหรับถ่ายทอดหรือสื่อสารข้อมูล ได้แก่ ระบบโปรคมนาคมต่างๆ เช่น โทรทัศน์,วิทยุกระจายเสียง,โทรเลข,เทเล็กซ์ และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้งระยะใกล้และระยะไกล
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
   มีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในรูปแบบต่างๆ ทั้งในทางธุรกิจ และทางการศึกษา ดังตัวอย่างเช่น
   - ระบบเอทีเอ็ม
   - การบริการและการทำธุรกรรมบนอินเทอร์เน็ต
   - การลงทะเบียนเรียน

 พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร
   การแสดงออกทางความคิดและความรู้สึกในการใช้รูปแบบของเทคโนโลยีทุกประเภท ที่นำมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการจัดหา จัดเก็บ สร้างและเผยแพร่สารสนเทศในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ ภาพ ข้อความ หรือ ตัวอักษร ตัวเลขและภาพเคลื่อนไหว เป็นต้น
การใช้อินเตอร์เน็ต
   งานวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของนักศึกษาในสภาบันอุดมศึกษาพบว่า
   นักศึกษาส่วนใหญ่ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อความบันเทิง เนื่องจากเห็นว่ามีความสะดวกในการติิดต่อสื่อสารกับผู้อื่น ในขณะที่การใช้อินเตอร์เน็ตของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาส่วนใหญ่ใช้เพื่อการเรียนรู้ การติดตามข่าวสารของสถานศึกษา
ใช้อินเตอร์เน็ต ทำอะไรได้บ้าง?
งานวิจัยชี้ว่า นักศึกษาใช้อินเตอร์เน็ตในการสนทนากับเพื่อนๆ และการค้นข้อมูลจากห้องสมุด
นอกจากนี้งานวิจัยยังชี้ว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ และประกอบการทำรายงาน
สถานที่ที่มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
งานวิจัยพบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้าน และมีการใช้อินเตอร์เน็ตที่ห้องสมุดของสถาบัน
นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีการใช้หรือการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศน้อย ในรูปแบบไหนบ้าง?
   งานวิจัยชี้ว่า นักศึีกษามีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเหล่านี้น้อย ได้แก่ ฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ การเรียนรู้แบบออนไลน์หรือ e-Learning วีดิทัศน์ตามอัธยาศัย( video on Demand) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ และบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วนสอน
   -การเรียนรู้แบบออนไลน์(e-Learning)
   -บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน(Computer Assisted Instruction - CAI) หรือ (Computer Aided Instruction)
   -วีดีทัศน์ตามอัธยาศัย (Video on Demand - VOD)
   -หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book)
   -ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (e-Library)

 การเรียนรู้แบบออนไลน์ (e-Learning)
   เป็นการศึกษา เรียนรู้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ต(Internet) หรืออินทรเน็ต(Intranet) เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ตามความสามารถและความสนใจจองตน โดยเนื้อหาของบทเรียนซึ่งประกอบด้วย ข้อความ รูปภาพเสียง วิดีดอและมัลติมีเดียอื่นๆ จะถูกส่งไปยังผู้เรียนผ่านเว็บเบราว์(Web Browser) โดยผู้เรียนผู้สอนและเพื่อนร่วมชั้นเรียนทุกคน สามารถติดต่อปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้ เช่นเดียวกับการเรียนในชั้นเรียนปกติ โดยอาศัยเครื่องมือการติดต่อสื่อสารที่ทันสมัย สำหรับทุกคน โดยผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ (Learning for all)
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction - CAT)
   คือบทเรียนคอมพิวเตอร์ซึ่งนำเสนอสารสนเทศที่ได้ผ่านกระบวนการสร้างและพิจารณรมาเป็นอย่างดี โดยมีเนื้อหาวิชาหรือสารสนเทศ แบบฝึักหัด การทดสอบและการให้ข้อมูลป้อนกลับให้ผู้เรียนได้ตอบสนองต่อบทเรียนได้ตามระดับความสามารถของตนเอง เนี้อหาวิชาที่นำเสนอจะอยู่ในรูปมัลติเดีย ซึ่งประกอบด้วย อักษร รูปภาพ เสียงและ / หรือ ทั้งภาพและเสียง ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการนำหลักการเบี้องต้นทางจตวิิทยาการเรียนรู้มาใช้ในการออกแบบ โดยอาศัยพฤติกรรมการเรียนรู้ (Learning Behavior) ทฤษฎีการเสริมแรง(Reinforcement Theory) ทฤษฎีการวางเงื่อนไขปฎิบัติ (Operant Conditioning Theory) ซึ่งถือว่าคอมสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนองและการเสริมแรงเป็นสิ่งสำคัญ โดยมีจุดมุ่งหมายนำผู้เรียนไปสู่การวางโปรแกรมไว้ล่วงหน้า เป็นการให้ผู้เรียนมีโอกาศเรียนรู้ได้ด้วยตนเองและมีผลย้อนกลับทันทีและเรียนรู้ไปทีละขั้นตอนอย่างเหมาะสมตามความต้องการและความสามารถของตน
วีดิทัศน์ตามอัธยาศัย (Video on Demand - VDO)
   คือ ระบบการเรียกดูภาพยนตร์ตามสั้งที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกดูภาพยนต์หรือข้อมูลภาพเคลื่อนไปไหวพร้อมเสียงได้ตามต้องการ ตามสโลแกนที่ว่า "To view what one wants, when one wants". โดยสามารถใช้งานนี้ได้จากเครือข่ายสื่อสาร (Telecommunications Networks)ผู้ใช้งาน ซึ่งอยู่หน้าเครื่องลูกข่าย (Video Client)สามารถเรียกดูข้อมูลที่เป็นภาพเคลื่อนไหวได้ทุกเมื่อตามต้องการและสามารถควบคุมข้อมูบวิดีโิอนั้นๆ โดยสามารถย้อนกลับ (Rewind) หรือกรอไปข้างหน้า(Forward)หรือหยุดชั่วคราว(pause)ได้เปรียบเสมือนการดูวิดีโอที่บ้านนั้นเองทั้งนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายไม่จำเป็นต้องดูข้อมูลเดียวกันกล่าวคือสามารถดูภาพยนตร์เรื่องเดียวกัน หรือต่างกัีนก็ได้
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Books)
   คือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านได้ทางอินเทอร์เน็ต โดยมีเครื่องมือที่จำเป็นในการอ่านหนังสือประเภทนี้คือ ฮาร์ดแวร์ประเภทเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาอื่นๆ พร้อมทั้งติดตั้งระบบปฎิบัติการหรือซอฟต์แวร์ที่ใช้่อ่านข้อความต่างๆ ตัวอย่างเช่น ออร์แกไนเซอร์แบบพกพา พีดีเอ เป็นต้น
   ส่วนการดึงข้อมูล e-books ซึ่งอยู่บนเว็บไซต์ที่ให้บริการทางด้านนี้มาอ่านก็จะใช้วิธีการดาวน์โหลดผ่านทางอินเตอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่ ลักษณะไฟล์ของ e-books จะสามารถเลือกได้สี่รูปแบบคือ Hyper Text Markup Language(HTML), Portable Document Format(PDF),Peanut Markup Language(PML)และExtensive Markup Language(XML)
ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ (e-Library)
   เป็นแหล่งความรู้ที่บันทึกข้อมูลไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายและให้บริการสารสนเทศทางอิเล็กนิกส์
   คุณลักษณะที่สำคัญของห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์มีดังนี้ คือ
   1. การจัดการทรัพยากรสารสนเทศด้วยคอมพิวเตอร์
   2. ความสามารถในการเข้าถึงสารสนเทศโดยทางอิเล็กทรอนิกส์
   3. บรรณารักษ์หรือบุคคลากรของห้องสมุดสามารถแทรกการติดต่อระหว่างผู้ใช้กับห้องสมุดได้ เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ได้โดยทางอิเล็กทรอนิกส์
   4. ความสามารถในกาจัดเก็บ รวบรวมและนำส่งสารสนเทศสู้ผู้ใช้โดยทางอิเล็กทรอนิกส์

วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับครู


วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับครู
Information and Communication Technology for Teachers
รหัส PC54504  3(2-2-5)
คำอธิบายรายวิชา
         ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนดลยีสารสนเทศ ความรู้ก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เช่น ไมโครคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ระบบการสื่อสารข้อมูลระบบเน็ตเวิร์ค ระบบซอฟต์แวร์ การจักการทรัพยากรสารสนเทศ เครื่องมืงการเข้าถึงสารสนเทศทักษะการเข้าถึงสารสนเทศ ฐานข้อมูลสารสนเทศ ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์และการอ้างอิง ฝึกปฎิบัติการ สามารถใช้คอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐานและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้อย่างเหมาะสม

ความหมายของสารสนเทศ


ความหมายของสารสนเทศ
        สารสนเทศ หมายถึง ข่าวสารที่สำคัญเป็นระบบข่าวสารที่กำหนดขึ้น และจัดทำขึ้นภายในองค์การต่างๆ ตามความต้องการเจ้าของหรือผู้บริหารองค์การนั้นๆ
        สารสนเทศ ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า Information หมายถึง ความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า สารสนเทศเป็นความรู้และข่าวสารที่สำคัญที่มีลักษณะพิเศษ ทั้งในด้านการได้มาและประโยชน์ในการนำไปใช้ปฎิบัติื
        สารสนเทศ มีความหมายตามที่ได้มีการให้คำจำกัดความที่ใกล้เคียงกันดังนี้
        สารสนเทศ หมายถึงข้อมูลทั้งด้านปริมาณและด้านคุณภาพที่ประมวลจัดหมวดหมู่เปรียบเทียบ และวิเคราะห์แล้วสามารถนำมาใช้ได้ หรือนำมาประกอบการพิจารณาได้สะดวกกว่าและง่ายกว่า

เทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร?

เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอที(IT) Information and Communication Technology
เป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่อสังคมในปัจจุบันมีความเกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ การประมวลผลและการแสดงผลสารสนเทศ
องค์ประกอบหลักของเทคโนโลยีสารสนเทศ
        เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย องค์ประกอบหลัก 2 ส่วน คือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม (Telecommunecation Technology)
               1. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
                   คอมพิวเตอร์จัดเป็นเทคโนโลยีหลักของเทคโนโลยีสารสนเทศในยุคปัจจุบัน เนื่องจากคอมพิวเตอร์มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งด่านการบันทึก การจักเก็บ การประมวลผล การแสดงผล และการสืบค้นหาข้อมูลสารสนเทศเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์แบ่งเป็นเทคโนโลยีย่อยที่สำคัญได้ 2 ส่วน คือเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์และเทคโนโลยีซอฟท์แวร์
                   1.1 เทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ หมายถึง อุปกรณ์ทุกชนิดที่ประกอบขั้นเป็นตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ที่ต่อพ่วงเพื่อเชื่อมดยงจำแนกตามหน้าที่การทำงานออกเป็น 4 ส่วน คือ
                       (1) หน่วยรับข้อมูล
                       (2) หน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียู : CPU (Central Processing Unit)
                       (3) หน่วยแสดงผลข้อมูล (Output Unit)
                       (4) หน่วยความจำสำรอง (Secondary Storage Unit)
                   1.2 เทคโนโลซอฟท์แวร์(Software) หมายถึง โปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ทำหน้าที่สั้งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานตามทำงานตามที่ผู้ใช้ตามต้องการ
                 
                   ซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

                        1) ซอฟท์แวร์ระบบ (System Software) หรือชุดคำสั่งที่ทำหน้าที่สั้งให้เครื่องทำคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ทำงานตามคำสั่ง
                        2) ซอฟท์แวร์ประยุกต์ (Application Software) คือชุดคำสั่งที่ผู้ใช้ส่งเข้าสู้เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ผู้ใช้ต้องการ

               2 เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม  หมายถึง  เทคโนโลยีที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกันทั่วไป  เช่น  ระบบโทรศัพท์  ระบบดาวเทียม  ระบบเครือข่ายเคเบิล  และระบบสื่อสารอื่นๆ ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกัน
                   ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
                  -แผนพัฒนาเศรษฐ์กิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่4 (2520-2524) การมีส่วนร่วมของสารสนเทศเพื่อการศึกษา
                  -มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานและปฏฺบัติการของระบบสารสนเทศเพื่อการศึกษาขึ้น
                  -ในแผนพัฒนาเศรษฐ์กิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ก็ได้มีการเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษามากขึ้น
                  -ในแผนฯ 9 มีการจัดทำแผนหลักเพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการศึกษา
                   แผนพัฒนาฯข้างต้นทำให้เทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญต่อวงการศึกษาของประเทศไทยมากขึ้น จะทำให้การศึกษาของชาติมีความเท่าเทียม ทั่วถึง มีคุณภาพ และมีความต่อเนื่อง ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างคุ้มค่า
                   พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
                    ยุคที่ 1 การประมวลผลข้อมูล มีวัตถุประสงค์เพื่อการคำนวณและการประมวลผลข้อมูลของรายการประจำ (Transaction Processing) เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร
                    ยุคที่ 2 ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ  มีการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการตัดสินใจ ควบคุม ดำเนินการ ติดตามผลและวิเคราะห์ผลงานของผู้บริหารระดับต่าง ๆ
                    ยุคที่ 3 การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ มีการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเรียกใช้สารสนเทศที่จะช่วยในการตัดสินใจนำหน่วยงานไปสู่ความสำเร็จ
                    ยุคที่ 4 ยุคปัจจุบัน หรือยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ  มีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์และระบบการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นเครื่องมือช่วยในการจัดทำระบบสารสนเทศ และเน้นความคิดของการให้บริการสารสนเทศแก่ผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นวัตถุประสงค์สำคัญ
               
 ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
               1. ให้ความรู้ ทำให้เกิดความคิดและความเข้าใจ
               2. ใช้ในการวางแผนการบริหารงาน
               3. ใช้ประกอบการตัดสินใจ
               4. ใช้ในการควบคุมสถานการณ์ หรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
               5. เพื่อให้การบริหารงานมีระบบ

สรุป
    การนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในวงการศึกษามีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศประเภทต่างๆ เช่น ดาวเทียมสื่อสาร ใยแก้วนำแสง อินเทอร์เน็ต ก่อให้เกิดระบบคอมพิวเตอร์สำหรับการบริหารงานในสถานศึกษาด้านต่างๆ  เช่น ระบบบริหารจัดการห้องสมุด  และระบบคอมพิวเตอร์เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอน เช่น  ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอน การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษายังช่วยให้เกิดการลดความเหลื่อมล้ำของโอกาสทางการศึกษาการเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี